อีเวนท์นี้ถูกแท็กต่อมาให้ลิสต์ชื่อหนังสือ 10 เล่มที่ติดอยู่ในใจ หรือพูดง่ายๆ คือหนังสือ 10 เล่มที่อ่านแล้วประทับใจที่สุดนั่นแหละ (บทความนี้เขียนนานแล้ว แต่เพิ่งย้ายบล๊อกเลยเอามาลงใหม่อีกที)
ตอน แรกก็ลิสต์ๆ ออกมาก่อนละนะว่ามีเรื่องอะไรที่น่าสนใจบ้าง ซึ่งส่วนใหญ่เป็น fiction หรือนิยายเรื่องแต่ง เพราะไม่ค่อยมีหนังสือ non-fiction ที่อ่านแล้วประทับใจพอจะเข้ามาอยู่ใน 10 อันดับได้ หรือถ้ามีประทับใจพอก็มันจะเป็นพวกหนังสือ How-To ที่ไม่น่าเอามาจัดเข้าลิสต์ พวกหนังสือเสริมกำลังใจชีวิตอะไรพวกนั้นก็ไม่อ่าน
10 อันดับต่อไปนี้เป็นเรื่องที่เลือกมาโดยใช้ "ความประทับใจ" ก่อนอ่าน-ระหว่างอ่าน-และหลังอ่านจบ ของตัวเองเป็นตัวตัดสิน ไม่ได้แปลว่าสนุกที่สุด แต่บางครั้งมันก็ให้ข้อคิดหรือความรู้มากที่สุด
ไม่ได้ให้ความเห็นแบบการบ้านจงวิจารณ์คุณค่าทางภาษาในวิชาภาษาไทยเพราะทำไม่เป็น บางเหตุผลที่ชอบเรื่องนี้ก็ไม่ต้องคิดมากอะไรละกันนะเพราะบางครั้งการชอบมัน ก็ไม่ต้องมีเหตุผล ^__^
1. หัวขโมยแห่งบารามอส / Rabbit
นานมาแล้ว ในสมัยที่ผืนดินยังมีกษัตริย์ปกครองดินแดน มีอัศวินปกป้องเจ้าหญิง มีพ่อมดและมังกร มีเวทมนตร์และความลี้ลับ ในตำนานเล่าขานถึงสงครามศักดิ์สิทธิ์ระหว่างปีศาจแห่งความมืดและราชาแห่งแสง สว่าง...
เป็นเรื่องที่ดังที่สุดในช่วงนั้น อย่างน้อยก็น่าจะเคยได้ยินผ่านหูมาบ้าง กับหนึ่งในเรื่องที่ทำให้วงการวรรณกรรมเยาชนไทยคึกคัก
เรื่องของเจ้าตัวยุ่งเฟรินที่มีอาชีพเป็นหัวขโมย โดนพ่อส่งเข้าไปเรียนในโรงเรียนพระราชาเพื่อเป้าหมายคือให้ลักพาตัวเจ้าชายหรือเจ้าหญิงมาสักคน
โดย รวมแล้วก็เป็นนิยายแฟนตาซี อ่านแล้วเหมือนเล่นเกม RPG อยู่ ระดับความฮาการันตีได้ แต่ก็ใช่ว่าจะไร้สาระ เพราะตลอดเรื่องสอดแทรกข้อคิดและคติธรรมให้คนอ่านได้คิดย้อนถึงตนเองตลอด เวลา
2. เพชรพระอุมา / พนมเทียน
ไพรมหากาฬ ดงมรณะ จอมผีดิบมันตรัย อาถรรพณ์นิทรานคร ป่าโลกล้านปี แงซายจอมจักรา
หนังสือที่น่าจะเรียกว่าเป็นนิยายที่ยาวที่ สุดในโลก ถึง 53 เล่ม (ในการพิมพ์แบบปกแข็งครั้งแรก) ใช้เวลาในการเขียนถึง 25ปีครึ่งจนคนอ่านต้องคอยลุ้นกันว่าคนเขียนจะเป็นอะไรไปก่อนเรื่องจะจบรึ เปล่า
เพรชพระอุมาเป็นเรื่องของพรานชื่อ รพินทร์ ไพรวัลย์ ที่รับจ้างนำคณะผู้ว่าจ้างออกตามหาญาติผู้สูญหายไปในการออกตามหาเพรชพระอุมา ตลอดการเดินทางทั้งหมดต้องเดินทางเข้าไปในดินแดนอาพรรพณ์และพบเรื่องแปลก ประหลาดให้ได้ผจญภัยกันตลอดเวลา
นับเป็นหนังสือนิยายแนว เดินป่าที่เรียกได้ว่าดีที่สุดชนิดที่ว่าวางหนังสือแทบไม่ลง และเนื่องจากมันมีจำนวนเล่มถึงครึ่งร้อย ทำให้เราไม่ต้องยั้งความเร็วในการอ่านเลย ขนาดอ่านวันละเล่มสองเล่มยังต้องใช้เป็นเดือนกว่าจะจบหมด
ป.ล. ถ้าใครชอบแนวนี้แต่คิดว่ามันยากเกินไป แนะนำเรื่อง ล่องไพร เป็นนิยายชุดเหมือนกันแต่ว่าจบในเล่ม เลือกอ่านเรื่องไหนก็ก็ได้ ไม่ค่อยต่อกันนัก
3. เซวีน่า มหานครแห่งมนตรา / กัลฐิดา
เมื่อกงล้อแห่งโชคชะตาเริ่มหมุน ชะตากรรมของผู้คนที่ถูกผูกพันไว้ด้วยวลีแห่งอัญมณีศักดิ์สิทธิ์จึงเริ่มขึ้น...ณ มหานครแห่งนี้
นิยายแฟนตาซีเกี่ยวกับเด็กสาวบรรณารักษ์ เฟมีล ในเมืองใหญ่ที่หนังสือถูกจัดเป็นของโบราณก่อนที่เธอจะถูกสับเปลี่ยนไปอยู่ในมิติแห่งมนตราพร้อมกับชะตากรรมของผู้กอบกู้อาณาจักร
เนื้อ เรื่องโดยรวมสนุกดี แต่เรื่องนี้ไม่ได้ถูกใจคอนเซ็ปเรื่อง ทว่าถูกใจการเล่าเรื่องและสำนวนของผู้เขียนซะมากกว่าอ่านแล้วดูตัวละครมี มิติดี
4. 火凤燎原 หงสาจอมราชันย์ / 陳某 เฉินเหมา
เล่าปี่ โจโฉ ตระกูลซุน ล้วนแต่ไม่ใช่ตัวละครหลัก ในเมื่อผู้ชนะที่แท้จริงคือ สุมาอี้
อีกหนึ่งการ์ตูนจากทางฮ่องกงที่เลือก "สามก๊ก" เป็นแกนหลักของเรื่อง แต่ทว่าตัวเอกที่เลือกมากลับเป็น เตียวหยุน (จูล่ง) กับ สุมาอี้ (ชง ต๊ะ) แทน เรียกได้ว่าเป็นการเปลี่ยนมุมมองครั้งใหญ่สำหรับนิยายเรื่องสามก๊ก แต่หากมองว่าสุดท้ายแล้ว ตอนจบเรื่องเป็นสุมาอี้ตั้งหากที่รวมแผนดินได้ ไม่ใช่ทั้ง เล่า โจ หรือ ซุน ก็สมควรแล้วที่จะให้เขาเป็นตัวเอก
ใน เรื่องนี้เราจะไม่เห็นฉากบู๊รบกันแบบในสามก๊กฉบับอื่นๆ เท่าไหร่ แต่ผู้เขียนเน้นไปที่การวางกลยุทธ์เพื่อเอาชนะกัน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นเรื่องที่แต่งเสริมเข้าไปแต่ทว่ามีเหตุผลเข้ากับเนื้อ เรื่องดี
เนื้อเรื่องมองความจริงยิ่งกว่าการมองว่าตัวละครในสามก๊กฉบับดั้งเดิมเก่งกาจประหนึ่งเทพเจ้า
ถ้า คนๆ เดียวเอาชนะกองทัพนับหมื่นได้ จะมีกองทัพไปเพื่ออะไร การสงครามอยู่ที่การวางแผนและขวัญทหารเป็นหลักต่างหาก ... เช่นการที่แท้จริงแล้ว เตียวหุยไม่ใช่คนไม่คิดหน้าคิดหลังแต่กลับเป็นการซ่อนครอบคนละเอียดในครอบคน หยาบโดยการเป็นกุนซือของเล่าปี่ในช่วงแรก ตั๊งโต๊ะไม่ใช่ทรราชแต่เป็นจอมคนที่มีวิศัยทัศน์กว้างไกลแต่ถูกจัดฉากและลอบ สังหารเป็นต้น
5. โครงสร้างข้อมูล : ฉบับวาจาจาวา / สมชาย ประสิทธิ์จูตระกูล
จัดว่าเป็น "หนังสืออ่านเล่น" ละกันเพราะเราซื้อมันมา "อ่านเล่นๆ" จริงๆ หึหึ
เป็น หนังสือ non-fiction เล่มเดียวที่หลุดเข้ามาในโพลล์ของเรา (ฮา) หนังสือเรื่อง Data Structure & Algorithm - Java version ... สาเหตุก็เพราะอ่านแล้วนี้แล้วเรียกว่าเปลี่ยนวิธีคิดในการเขียนโปรแกรมของ เราในขณะนั้น (ปี2) ไปเลย
สำหรับโปรแกรมเมอร์มืออาชีพ หนังสือเล่มนี้อาจจะเทียบกับ text จากต่างประเทศไม่ได้ แต่ในระดับนักเรียนนักศึกษา มันก็พอแล้วที่จะเปลี่ยนมุมมองต่อการเขียนโปรแกรมของคุณ
6. Artemis Fowl อาร์ทีมิส ฟาวล์ / Eoin Colfer
เมื่ออาชญากรรุ่นจิ๋วสมองกลั่นวางแผนลักพาตัวแฟรี่มาเรียกค่าไถ่ การหักเหลี่ยมเฉือนคมระหว่างวิยาการกับเวทมนตร์จึงเกิดขึ้น
จะเกิดอะไรขึ้นเมื่อเด็กชายวัยสิบสองปีต้อง การทองจากพวกแฟรี่? โอเวน โคลเฟอร์แสดงให้เห็นว่าหนังสือนิยายแฟนตาซีสำหรับเด็กไม่จำเป็นต้องมีแต่ เวทมนตร์ หรือตัวเอกของเรื่องเป็นผู้กล้าต้องไปช่วยเจ้าหญิงจากจอมมารผู้ชั่วร้าย เพราะ อาร์ทีมิส ฟาวล์ตัวเอกขอเรื่องนั้นใกล้เคียงกับคำว่าจอมมารมากกว่าพระเอก
อาร์ ทีมิสเป็นวายร้ายอาชญากรรุ่นจิ๋วที่กำลังจะก่ออาชญากรรมครั้งใหม่ที่ใหญ่ กว่าเดิมโดนการวางแผนลักพาตัวแฟรี่สักตนจากเมืองใต้ดิน (ที่มีวิทยาการสูงล้ำยิ่งกว่ามนุษย์โคลนบนผิวดินเสียอีก) มาขังไว้แล้วเรียกค่าไถ่เป็นทองจำนวนมหาศาล
จุดเด่นของเรื่องอยู่ที่ส่วนผสมที่ลงตัวระหว่างเวทมนตร์ อุปกรณ์ไฮเทค และแผนการอันปราดเปรื่อง
เรื่องนี้เป็นซีรีย์หลายเล่ม แต่ว่าแต่ละเล่มก็จบเรื่องในตัวเองทำให้เราไม่ต้องจำเนื้อเรื่องเล่มเก่ามากนัก
7. Sherlock Holmes เชอร์ล็อค โฮล์มส์ / Arthur Conan Doyle
นักสืบชื่อดังตลอดกาลพร้อมกับคู่หูวัสสัน
คงไม่มีใครไม่รู้จักนักสืบชื่อก้องโลกอย่าง เชอร์ล๊อค โฮล์มส์ ที่พร้อมตะลุยไขคดีไปทุกที่พร้อมกับ วัสสัน เพื่อนคู่หู
ตาม ความเห็นส่วนตัวแล้วเชอร์ล๊อก โฮล์มส์ถือว่าสนุก แต่ไม่สนุกเท่ากับนักสืบในยุคหลังๆ อย่างเช่น ปัวโร ของ อากาทา คริสตี้ แต่การที่มันเป็นนิยายสืบสวนเรื่องแรกๆ ที่ทำชื่อ ทำให้คนได้ยินชื่อเสียงของยอดนักสืบสูบไปป์คนนี้ได้มากกว่า
ส่วน สาเหตุที่มันติดเข้ามาในลิสต์ก็เพราะว่ามันเป็นหนังสือเล่มแรกที่อ่านตอน เด็กๆ แทนการอ่านการ์ตูน เล่มไม่หนามาก ซึ่งประกอบด้วยเรื่องสั้นสี่เรื่อง ตอนนั้นไม่เคยคิดเลยว่าหนังสือที่ไม่มีรูปภาพแบบนี้มันจะไปสนุกได้ยังไงกัน จนเมื่ออ่านจบก็ต้องไปหาซื้อหนังสือตอนอื่นมาอ่านเพิ่ม อย่าง หมาผลาญตระกูล (The Hound of the Baskervilles) จัตวาลักษณ์ (The Sign of the Four) หุบเขาแห่งภัย (The Valley of Fear) ก่อนจะเริ่มรู้สึกว่าควรจะเปลี่ยนไปอ่านเรื่องแนวอื่นซึ่งมาจบที่แนวแฟนตาซีซะเป็นส่วนใหญ่
8. Harry Potter แฮร์รี่ พอตเตอร์ / J. K. Rowling
เรื่องของเด็กชายผู้มีรอยแผลเป็นรูปสายฟ้าที่พลิกวงการวรรณกรรมเยาวชนทั่วโลก
ในยุคนี้คงไม่มีใครไม่รู้จัก แฮร์รี่ พอตเตอร์ หนังสือที่ทำให้มุมมองด้านนิยายแฟนตาซีเปลี่ยนจากดินแดนอันห่างไกลมาอยู่ใน โลกปัจจุบัน และบอกเราว่าเวทมนตร์อยู่ใกล้ตัวมากกว่าที่เราคิด
แฮ ร์รี่ พอตเตอร์เป็นหนึ่งในหนังสือที่เล่มแรกๆ อ่านแล้ววางไม่ลง (เริ่มอ่านตอนมันออกไปถึงเล่มที่ 4 แล้ว) ถึงขั้นเป็นนิยายเรื่องแรกที่อ่านซ้ำรอบสองและรอบสามก่อนจะแผ่วลงเมื่ออ่าน เล่มที่ห้าเพราะตัวหนังสือค่อนข้างจะหนาและเนื้อเรื่องไม่แปลกใหม่เท่าเล่ม แรกๆ ทำให้เลิกอ่านไปแล้วหันมารอดูหนังแทน
แต่ก็ต้องยอม รับว่า เจ.เค. พล๊อตเรื่องมาดี ทุกอย่างมาที่มาที่ไป เหตุการณ์ที่เกิดในเล่มก่อนๆ มีผลไปสู่เล่มต่อไปและมาเฉลยปมตอนท้ายสุดพร้อมกับข้อคิดในเรื่องความรักของ พ่อแม่เพื่อนพ้อง การต่อสู้ไม่ยอมแพ้ความชั่วร้าย และการยอมรับความตาย
ป.ล.ตัว ละครที่ชอบที่สุดในเรื่องด้านคาเร็กเตอร์คือ เฮอร์ไมโอนี่ และ สเนป ส่วนตัวละครที่ชอบเพราะอะไรไม่รู้ (อวย) คือ โชแชง และ ลูน่า
9. Arin's Story / ปาร์ค ชิน-แอ
ถ้างั้นบอกมาสิว่าอยากได้อะไร ... อืม ฉันอยากเป็นมังกร
เรื่องนี้เป็นนิยายแปลจากเกาหลี น่าเสียดายที่สัญญาหมดแล้วเลยทำให้เล่มต่อๆ ไปทำเข้ามาแปลในไทยไม่ได้แล้ว ปกติพูดถึงเกาหลีแล้วน่าจะนึกถึงดาราและหนังรักเป็นส่วนใหญ่ ที่เจ้าของบล๊อกไม่รู้อะไรเลย แต่หนังสือนี้เรื่องนี้เป็นสิ่งเดียวที่ทำให้ในชีวิตของเรามีอะไรเกี่ยวกับ เกาหลีบ้าง (ฮา)
อาริน สตอรี่ แน่นอนก็ต้องเป็นเรื่องของ อาริน หรือ อาซีเลี่ยน ที่ตอนแรกก็เป็นมนุษย์ธรรมดาอ่ะนะ แต่อยู่มาวันหนึ่งดันไปพนันกับปีศาจเข้าแล้วชนะด้วยนี่สิ! เจ้าปีศาจก็เป็นคนดีมีสัจจะ ยอมให้เธอขออะไรก็ได้หนึ่งข้อ ตอนแรกเธอกะว่าจะให้แม้เลี้ยงใจร้ายหายไป แต่ดันขอให้ตัวเอกเป็น "ดราก้อน" หรือมังกรในนิยายแทน เจ้าปีศาจเลยเอาวิญญาณเธอไปสลับกับวิญญาณมังกรที่กำลังจะออกจากไข่อีกมิติ หนึ่งแทน
เนื้อเรื่องก็เป็นนิยายแฟนตาซีผจญภัยเบาๆ ของมนุษย์ที่กลายเป็นมังกรแล้วแปลงร่างเป็นมนุษย์แอบเนียนเดินทางผจญภัยไปเรื่อยนั่นเอง
10. แซซ / วัสส์
พ่อมด เจ้าหญิง เวทมนตร์ กบฏ ความรัก
นิยายเรื่องนี้ไม่น่าจะมีคนรู้จักเท่าไหร่นัก เพราะไม่ได้ดังมากแถมเก่ามากอีกตั้งหาก เนื้อเรื่องก็ไม่มีอะไรเท่าไหร่ ความยาวก็หนึ่งเล่มจบไม่หนามาก (แต่มีภาคต่อด้วยนะ) แต่ทำไมไม่รู้ อ่านแล้วชอบก็เลยให้ติดเข้ามาในลำดับสุดท้ายของเราละกัน
แซซ เป็นชื่อของพ่อมดพเนจรที่เดินทางมาขึ้นฝั่งที่ราเวล ดินแดนไร้มนตราสุดจะธรรมดาแห่งหนึ่งแล้วดันมีโอกาสไปช่วยเจ้าหญิงของ อาณาจักรนั้นจากพวกโจรสลัด นั่นทำให้เรื่องวุ่นวายทั้งหมดเกิดขึ้นเมื่อเขาถูกลากเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับ แผนการแย่งชิงอำนาจและการก่อการกบฏ
มีเล่มสองด้วยนะ เป็นเรื่องของ ไซเนสตรา พี่สาวฝาแฝดของแซซก่อนเรื่องในเล่มหนึ่งจะเกิด สนุกไม่แพ้กัน เหมือนคนเขียนเปลี่ยนมุมมองการเล่า จากตอนแรก น้องชายไปขึ้นฝั่งที่อีกดินแดน คราวนี้เป็นพี่สาวร่ายมนตร์ผิด หลงทางไปอยู่อีกเมืองแทน
กลุ่มหนังสือไม่เข้ารอบ
หนังสือต่อไปนี้เป็นพวกที่ลิสต์ๆ มาแล้วจำใจตัดออกเพราะมันเกิด 10 เล่มไปแล้ว แต่ไหนๆ ก็ลิสต์มาแล้วขอแปะทิ้งไว้สักหน่อยก็แล้วกัน
คราวนี้ไม่ได้เรียงลำดับแล้วนะ
The Da Vinci Code รหัสลับดาวินชี / Dan Brown
เรื่อง สไตล์ทฤษฎีสมคบคิด ว่าเบื้องหลังศาสนาและบุคคลสำคัญในอดีตแท้จริงแล้วเป็นสมาชิกขององค์กรลับ และสายเลือดของหนึ่งในศาสดาเอกของโลก
หนังสือหนามากจนไม่ อยากจะเรียกว่าพ๊อกเก็ตบุ๊คแต่เนื้อเรื่องดันจบแค่วันเดียวนี่สิ คนเขียนหาข้อมูลมาดี ให้ข้อมูลตรงจุดนี้ ความรู้แน่นมาก
ป.ล.การผจญภัยและไขปริศนาของโรเบิร์ด แลงดอน ไม่ได้จบแค่ ดาวินชีโค้ด แต่มีต่อใน "เทวา กับ ซาตาน" อีกด้วย ชอบเรื่องนั้นมากกว่านะ แต่ไม่ได้อ่าน ดูหนังอย่างเดียวเลยไม่ถูกจัดเข้ามาในลิสต์
Mermaid Rhapsody เพลงสุดท้ายของนางเงือก / V.Rondell
หนังสือที่อ่านแล้วรู้สึก ฟิล กู๊ด กับท้องทะเล เมื่อ คลอเรีย เจ้าหญิงเงือกจอมเอาแต่ใจถูกพ่อซึ่งเป็นราชาใช้ให้ไปตามพี่สาวคนโตที่โดดงาน แต่งของตัวเอกหนีขึ้นฝั่งไปด้วยเหตุผลไม่ค่อยเข้าท่า ร้อนให้คลอเรียต้องขึ้นบกทำให้ได้พบกับนายหน้านาม ไคอา และนั่นก็เป็นจุดเริ่มของเรื่องทั้งหมด
Draker's Story เดรกเกอร์ สตอรี่ / กัลฐิดา
ถ้า ลิสต์นี้เป็นการจัดการให้รางวัล คุณกัลฐิดา คงได้ไปสองราลวัลแล้ว เพราะมีหนังสือติดเข้าโพลล์มาตั้งสองเรื่องด้วยกัน (เซวีน่า) ถามว่ารู้สึกประทับใจเดรกเกอร์ตั้งแต่เมื่อไหร ตอบเลยว่าตั้งแต่ครั้งแรกที่อ่านคำโปรยบนหน้าปก
"เรื่อง เล่า ตำนาน ความจริง .. สิ่งไหนที่คนเราอยากจะเชื่อ สิ่งไหนที่คนเราอยากจะให้ปกป้องชีวิตเรา อำนาจ พลัง ปัญญา เวทมนตร์ และความเป็นอมตะ หากคุณเชื่อในสิ่งนี้ คุณต้องเชื่อว่า เดรกเกอร์ มีจริง"
เปิดเรื่องสไตล์คล้ายๆ เซวีน่า คือต้องมีเด็กสาวชีวิตรันทดนิดๆ เป็นตัวเอก ชื่อ แอมมี่ (อีก เรื่องคือคาเลนดาร์ คาสเซิลก็เปิดเรื่องคล้ายๆ อย่างนี้ เรื่องนั้นมี สปริงค์ ดูเหมือนการเปิดแบบนี้จะทำให้คนอ่านเอาใจช่วยมากขึ้น? ฮา) แอมมี่ที่จู่ๆ จากเด็กสาวธรรมดาต้องกลายมาเป็นเดรกเกอร์ หรือประมาณว่าคนที่เป็นเจ้าของมังกร
Liar Game เกมหลอกคนลวง / 谷忍 甲斐 ชิโนบุ ไคทานิ
ไลเออร์ เกมเป็นเรื่องของ คันซากิ นาโอะ เด็กสาวผู้ใสซื่อและยึดถือความสื่อสัตย์เป็นหลักการดำเนินชีวิต วันหนึ่งเธอถูกลากเข้าไปพัวพันกับเกมที่ต้องแข่งกันหลอกล่อคู่ต่อสู้ด้วย วิธีสกปรกต่างๆ นานา นาโอะที่ถูกคนที่เธอคิดว่าไว้ใจได้หลอกเอาเงินเดิมพันที่ทางเกมให้มาไปถึง "ร้อยล้านเยน" ทำให้เธอสิ้นหวังจนต้องไปขอความช่วยเหลือจาก อากิยามะ ชินอิจิ นักศึกษาอัจฉริยะที่เพิ่งพ้นโทษจากการทำให้บริษัทหนึ่งซึ่งทำให้แม่เขาเสีย ชีวิตล้มละลายไปมาช่วย ด้วยแผนการของอากิยามะ ทำให้นาโอะเอาชนะคู่ต่อสู้ไปได้เรื่อยๆ
นอกจากแผนการอัน ฉลาดล้ำลึก วางแผนซ้อนแผนหลอกกันไปหลอกกันมาอย่างเหนือชั้นแล้วเรื่องนี้ยังสอนอีกอย่าง คือ การให้อภัยอย่างนาโอะที่ไม่ว่าจะชนะมากี่เกมก็จะคืนเงินให้อีกฝ่ายไม่ต้อง เป็นหนี้ตลอด ความเชื่อใจคนและการไม่โกหกกันแม้ในภาวะที่ถ้าแพ้อาจจะต้องเป็นหนี้ถึงร้อย ล้าน เพราะในทุกเกม หากทุกคนเชื่อใจกัน เกมทุกแรกก็จะจบลงอย่างง่ายดายโดยไม่มีใครเสียอะไรเลย
แว่วกริ่งกังสดาล
เพราะนี่เป็นการจัดอันดับ "หนังสือ" ทำให้หนังเรื่อง โหมโรง ไม่อาจจะอยู่ในลิสต์ได้ดังนั้นจึงส่งคู่ท้าชิงรุ่นเล็กเข้ามาแทน
แว่วกริ่งกังสดาลเป็นเรื่องเกี่ยวกับดนตรีไทยโดยตัวเอกชื่อ ขุนทอง อดีตมือกลองของวงดนตรีร๊อคระดับเฮวีเมทัลมีเหตุต้องเดินทางไปอยู่บ้านเก่า ของพ่อซึ่งเป็นสำนักดนตรีไทยก่อนจะได้เข้าร่วมวงและเริ่มสัมผัสได้ว่าดนตรี โบราณแบบนี้ มันมีอะไรมากกว่าที่คิด
